กีฬาวอลเลย์บอลในประเทศไทย
วอลเลย์บอลได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
เพียงแต่ทราบกันว่าในระยะแรกๆเป็นที่นิยมเล่นกันในหมู่ชาวจีนและชาวญวนมาก
จนกระทั่งมีการแข่งขันระหว่างคณะ ชุมชน สโมสร และสมาคมขึ้น
บางครั้งติดต่อแข่งขันกันไปในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีการแข่งขันชิงถ้วยทองคำทางภาคใต้
ปี พ.ศ.
2477 กรมพลศึกษาได้จัดพิมพ์กติกาวอลเลย์บอลขึ้น โดยอาจารย์นพคุณ
พงษ์สุวรรณ เป็นผู้แปล และท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในกีฬาวอลเลย์บอลเป็นอย่างยิ่ง
จึงได้รับเชิญเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเล่น ตลอดจนกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอล
แก่บรรดาครูพลศึกษามั่วประเทศในโอกาสที่กระทรวงศึกษาได้เปิดอบรมขึ้น
ในปีนี้เองกรมพลศึกษาได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาประจำปีขึ้น
และบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้าไว้ในรายการแข่งขันเป็นครั้งแรกพร้อมทั้งในหลักสูตรของโรงเรียนพลศึกษากลางได้กำหนดวิชาบังคับ
ให้นักเรียนหญิงเรียนวิชาวอลเลย์บอลและเนตบอลสมัยนั้นมี น.อ. หลวงศุภชลาศัย ร.น. ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา
จนกระทั่งปี พ.ศ.
2500 ได้มีการจัดตั้ง “ สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย “ ( Amature
Volleyball Association of Thailand )
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเพื่อเผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลให้เจริญรุดหน้า
และดำเนินการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลในระบบ 6 คน
มีหน่วยราชการอื่นๆ จัดกรแข่งขันประจำปี เช่น กรมพลศึกษา
กรมการคณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัย เทศบาลนครกรุงเทพฯ สภากีฬาทหาร
ตลอดจนการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดแข่งขันทั้งประเภททีมชายและทีมหญิงเป็นประจำทุกปี
ความมุ่งหมายของกีฬาวอลเลย์บอล
v เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกีฬาวอลเลย์บอล
v เพื่อให้มีความสามารถในการเล่นทักษะเบื้องต้นต่างๆของกีฬาวอลเลย์บอลอย่างถูกต้อง
v เพื่อให้มีความสามารถในการเล่นทีมได้อย่างถูกต้องและฉลาด
v เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกติกาเกี่ยวกับการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล
v เพื่อส่งเสริมในการพัฒนาร่างกาย
จิตใจ สังคม และอารมณ์
v เพื่อส่งเสริมให้มีนิสัยรู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
v ส่งเสริมให้เป็นคนมีน้ำใจนักกีฬา
v เพื่อก่อให้เกิดความสนุกสนานและเพลิดเพลินในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล
v เพื่อปลูกฝังนิสัยให้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น